099-219-3955
[email protected]
  • Cart
  • Checkout
  • นโยบายการเปลี่ยน / คืนสินค้า และการคืนเงิน
Facebook YouTube Instagram
  • หน้าหลัก
  • บทความ
  • สินค้าโพชง
  • รีวิวผู้ดื่มโพชง
  • ติดต่อเรา
Log in / Sign in
Login Register

Lost password?

or sign in with a social network
Facebook

Your personal data will be used to support your experience throughout this website, to manage access to your account, and for other purposes described in our privacy policy.

Wishlist Please, enable Wishlist.
0 0

No products in the cart.

Return To Shop
Shopping cart (0)
Subtotal: 0 บาท

Checkout

Free shipping over 49$
จัดส่งฟรีเมื่อซื้อสินค้า 1,200 บาท ขึ้นไป Go shop
แจกโค้ดส่วนลดทุกวันที่ LAZADA ไปที่ LAZADA
  • หน้าหลัก
  • บทความ
  • สินค้าโพชง
  • รีวิวผู้ดื่มโพชง
  • ติดต่อเรา
Facebook YouTube Instagram
Log in / Sign in
0 0
0 Shopping Cart

No products in the cart.

Return To Shop
Shopping cart (0)
Subtotal: 0 บาท

Checkout

Free shipping over 49$
Return to previous page
Home Archive by category "สาระน่ารู้"

Page 3

รู้ทันโรค

สารพัดสมุนไพร ต้านภัยไวรัสสายพันธุ์ใหม่2019

23 Mar 2020 / 5451 / 0
จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ส่งผลกระทบในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราในขณะนี้ ทำให้หลายคนหันมาสนใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ด้วยการหันมาเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และมีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลดความเสี่ยงและลดการเกิดโรค จำพวกสมุนไพรเป็นหลัก โดยสมุนไพรที่มีส่วนต้านเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 สามารถแบ่งหมวดหมู่ได้ 3 กลุ่ม 1. กลุ่มกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน  ได้แก่ 1.1 พลูคาว สมุนไพรที่มีกลิ่นเฉพาะตัว มีกลิ่นคาวรุนแรงคล้ายกินปลา โดยมีสารสำคัญคือ เควอซิทิน , รูติน ที่มีผลการศึกษาพบว่า “พลูคาว” มีศักยภาพในการยับยั้งเชื้อโคโรน่า โดยการจับกับ M Protein ของเชื้อ และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบอีกด้วย 1.2 หอมแดง สมุนไพรประจำบ้านที่ต้องมีทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นหอมแดง หอมใหญ่ที่มีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการหวัด แต่จากการศึกษาโดยเทคนิคพบว่า “สารเควอซิทิน ที่พบในหัวหอมหรือหอมแดงมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อไวรัสโคโรน่า และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ 1.3 ใบหม่อน มีการศึกษาพบว่า “สารรูตินในใบหม่อนมีฤทธิ์ช่วยรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ซึงมีฤทธิ์ยับยั้งไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ดีในช่วงโรคระบาดในประเทศจีน รวมถึงสามารถยับยั้งไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ดี” 1.4 ขมิ้นชัน สมุนไพรไทยขึ้นชื่อที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี ที่มีการศึกษาพบว่า “สารเคอร์คูมินในขมิ้นชัน มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัส ก่อโรคไวรัสโคโรน่าสายพีนธุ์ใหม่2019 และมีส่วนกระตุ้นภูมิคัมกันอีกด้วย” 2. ผลไม้ตระกูลส้ม ได้แก่ มะนาว มะกรูด ส้ม ส้มซ่า  ผลไม้ที่เราคุ้นเคยกันซึ่งมีการศึกษาพบว่า “สารเฮสเพอริดิน และ รูติน ถือเป็นสารสำคัญที่มักพบมากในผิวและเยื่อหุ้มด้านในเปลือกผลของพืชตระกูลส้ม ซึ่งมีศักยภาพสูงในการลดโอกาสการติเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่2019 3. ผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง 3.1 ผักที่มีวิตามันซีสูง มีรายงานการศึกษาที่พบว่า “ใบเหลียง พักแพว” ที่มีวิตามินซีสูงสามารถช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้ 3.2 ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ 3.2.1 มะขามป้อม จัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีและสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์สูง ทำให้ดูดซึมและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินสังเคราะห์ถึง 12 เท่า และยังมีส่วนกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโรคในช่วงที่มีโรคระบาดนี้ได้เช่นกัน 3.2.2 ลูกหม่อน เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แต่อุดมไปด้วยวิตมินซีพลังงานต่ำ และสารกลุ่มโพลีฟีนอล และสารในกลุ่มแอนโทไซยานินที่เป้นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ และทั้งหมดนี้ก็คือสมุนไพรที่มีการศึกษาแล้วว่ามีส่วนช่วยในการต้านเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019  ที่เรานำมาให้คนผู้อ่านทั้งหลายได้รู้กัน ก่อนจะจากกันไปในครั้งนี้ อย่าลืมนะลูก “กินร้อน ช้อนกลาง... Continue reading
สาระน่ารู้

โกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) ความลับยาอายุวัฒนะ

07 Sep 2018 / 6835 / 0
โกจิเบอร์รี่ !! หรือที่หลายคุณรู้จักกันในนามของ “เก๋ากี้” นั้นมีที่มา มาจากเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดที่สำคัญของจีนและของโลก โดยโกจิเบอร์รี่นั้นถือเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมยาวนานร่วม 2000 ปี นั้นเป็นเพราะใน “โกจิเบอร์รี่” มี เบต้า-แคโรทีนที่เป็นสารตั้งต้นของโปรวิตามิน เอ มากกว่าแครอทถึง 20% มีกรดอะมิโนสูงถึง 19 ชนิด เป็นแหล่งรวมวิตามิน ทั้ง วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินอี รวมไปถึงปริมาณวิตามินซี ที่สูงกว่าส้มถึง 500 เท่า มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาผักและผลไม้ ด้วยเหตุนี้ “ โกจิเบอร์รี่ ” จึงกลายเป็นสมุนไพรที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะมาดูแลสุขภาพ ดังสรรพคุณสมุนไพร ต่อไปนี้ บำรุงร่างกาย มีส่วนช่วยให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น และสัมพันธ์ขึ้นมากกว่าเดิม เช่น แก้อาการอ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ และยังมีส่วนในการสร้างเม็ดเลือดให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วย ลดระดับน้ำตาล และไขมันในเลือด เพราะในโกจิเบอร์รี่มีเบต้า-ซีโตสเตอรอลที่มีส่วนช่วยให้ในการรักษาคอลเลสเตอรอลดี นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยหลอดเลือดขยาย และลดการเกิดคอลเลสเตอรอลร้าย บำรุงสมอง ส่งเสริมความจำ และผ่อนคลายความเครียดอนุมูลอิสระ ด้วยฤทธิ์ของบีเทนในเก๋ากี้ ส่งผลให้เกิดการสร้างสารโคลีนซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยในเรื่องของความจำ ทำให้ความทรงจำของมนุษย์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมไปถึงลดภาวะความเครียดและความวิตกกังวลให้อยู่ในภาวะปกติ ทำให้อารมณ์ดี สดชื่น แจ่มใส จึงได้รับฉายา “แฮปปี้เบอร์รี่”นั้นเอง ต้านเซลล์มะเร็ง ด้วยเบต้า-แคโรทีนที่สูงมากในโกจิเบอร์รี่ ช่วยกระตุ้นการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันเซลล์จะส่งผลให้เซลล์มะเร็งในร่างกายในมนุษย์หยุดการเติบโต และลดภาวะความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง บำรุงสายตา จากงานวิจัยพบว่า ซีแซนทีนและลูทีน ซึ่งป็นสารสำคัญในโกจิเบอร์รี่มีส่วนช่วยในการกรองแสงสีฟ้า ป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา และยังมีส่วนช่วยในการรักษาโรคตาบอดในที่มืดอีกด้วย และยังมีส่วนช่วยในการ “ลดน้ำหนัก” ได้อีกด้วย ด้วยจาการยอมรับจากหลายวงการ รวมถึงผลการรับรองในเรื่องของสรรพคุณจากหลายสถาบันส่งผลให้ “โกจิเบอร์รี่” กลายเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ทั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของภายในเท่านั้น โกจิเบอร์รี่ยังมีส่วนช่วยในการป้องกันรังสี UV ได้อีกด้วย และในปัจจุบันนี้ โกจิเบอร์รี่ ถือว่ามีแพร่หลายอยู่ทั่วไป แต่โกจิเบอร์รี่ที่มีคุณภาพ และได้รับการยอมรับอยู่ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้น “โกจิเบอร์รี่” ในผลิตภัณฑ์ “โพชง เครื่องดื่มสมุนไพร 32 ชนิด” เพราะโพชง เลือกสรรโกจิเบอร์รี่ รวมถึงสมุนไพรคุณภาพมากมายให้คนไทยได้สุขภาพดีกันทั่วหน้า สั่งเลย โปรโมชั่นดีๆรอคุณอยู่ที่ “โพชง” Continue reading
ข่าวสาร & กิจกรรม

เชิญชวน !! โพชง กับงานมหกรรมสมุนไพร และอาหาร ครั้งที่ 3 ปี 61

29 Aug 2018 / 4466 / 0
มาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเสมือนหนุ่มสาว ไปด้วยกันกับ "โพชง" ในงานมหกรรมสมุนไพร และอาหาร ครั้งที่ 3 ตอน กินเปลี่ยนวัย…กินอย่างมั่นใจ ด้วยเกษตรกรรมยั่งยืน Continue reading
รู้ทันโรค

นอนไม่หลับ อย่าคิดว่าไม่เป็นอะไร!!

10 Jul 2018 / 8457 / 0
อาการนอนไม่หลับ หรือหลับลำบาก หรือหลับไม่สนิท (เรียกว่าโรคนอนไม่หลับ) ถ้าคุณประสบปัญหาจากโรคนอนไม่หลับ คุณจะรู้ว่าการนอนไม่หลับจะมีผลกระทบกับคุณในช่วงกลางวัน และกลางคืน ทำให้คุณรู้สึกอ่อนเพลียในระหว่างวัน และเป็นสาเหตุให้มีปัญหาในการทำงาน การรักษาโรคนอนไม่หลับต้องอาศัยทั้งคุณและแพทย์ร่วมมือกันเพื่อหาสาเหตุและผลกระทบของปัญหานี้  ผู้ป่วยหลายรายที่เป็นโรคนอนไม่หลับเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ปัจจัยเหล่านี้อาจรวมถึงการที่คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการนอนหลับ สุขอนามัยของการนอนหลับ ผู้ป่วยบางรายอาจมีโรคทางกาย หรือโรคทางจิตใจที่เป็นสาเหตุของโรคไม่นอนหลับ โรคนอนไม่หลับมีกี่ชนิด โรคนอนไม่หลับเกิดขึ้นได้ในประชากรทุกช่วงอายุ คนส่วนมากจะมีอาการนอนไม่หลับ 1 หรือ 2 คืน แต่บางครั้งอาจเกิดขึ้นนานเป็นสัปดาห์ เดือน หรือ ปี โรคนอนไม่หลับมักเป็นในผู้หญิงและผู้สูงอายุ Adjustment Insomnia (โรคนอนไม่หลับจากปัญหาการปรับตัว) เป็นปัญหาหลับได้ยาก หรือ หลับไม่สนิท เป็นเวลาไม่กี่คืน และน้อยกว่า 3 เดือน โรคนอนไม่หลับชนิดนี้มักเกิดจากความตื่นเต้นหรือความเครียด  ยกตัวอย่างในเด็กอาจนอพลิกตัวในคืนก่อนที่โรงเรียนจะเปิดเทอม โรคนอนไม่หลับอาจเกิดในคืนก่อนการสอบสำคัญหรือก่อนการแข่งขันกีฬา ผู้ใหญ่มักหลับได้ไม่ดีก่อนการพบปะทางธุรกิจที่สำคัญหรือการทะเลาะกันของสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท คนส่วนมากมักมีปัญหานอนไม่หลับเมื่อต้องห่างจากบ้าน การเดินทางไปในที่เวลาต่างจากเดิม การออกกำลังกายก่อนเวลาเข้านอน (ภายใน 4 ชั่วโมง) หรือเวลาเจ็บป่วยก็เป็นสาเหตุของโรคนอนไม่หลับชนิดนี้ เมื่อสถานการณ์ความตึงเครียดผ่อนคลาย หรือปรับการนอนหลับได้ การนอนหลับก็จะกลับมาเป็นปกติ Chronic insomnia (โรคนอนไม่หลับเรื้อรัง) นอนไม่หลับนานมากกว่า 1 เดือน คนที่นอนไม่หลับส่วนมากมักจะกังวลกับการนอนหลับของตน แต่นั่นเป็นสิ่งผิดที่จะโทษปัญหาการนอนหลับทั้งหมดว่าเกี่ยวกับความกังวล การศึกษาของ American Academy of Sleep Medicine กล่าวไว้ว่าผู้ป่วยโรคนอนไม่หลับอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ หรือ การทำงานของกล้ามเนื้อที่ผิดปกติในระหว่างนอนหลับ ผู้เชี่ยวชาญโรคจากการนอนหลับจะสามารถช่วยหาสาเหตุและแนะนำการรักษาที่มีประสิทธิภาพได้ อะไรคือสาเหตุของโรคนอนไม่หลับ โรคนอนไม่หลับอาจเป็นอาการของปัญหาอื่น เช่น การมีไข้ หรือ ปวดท้อง หรืออาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ปัจจัยทางด้านจิตใจ แนวโน้มที่จะนอนไม่หลับ  บางคนซึ่งมักเป็นส่วนใหญ่ที่จะนอนไม่หลับในเวลาที่มีความเครียด บางคนมีการตอบสนองต่อความเครียดเช่นมีอาการปวดศีรษะหรือปวดท้อง ความเครียดเรื้อรัง ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ เด็กที่มีความเจ็บป่วยรุนแรง หรืองานที่ได้ผลกำไรน้อย ล้วนก่อให้เกิดปัญหาการนอนหลับ การเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดจะช่วยรักษาโรคนอนไม่หลับได้ โรคนอนไม่หลับปฐมภูมิ (Primary insomnia หรือ Psychophysiological insomnia) ถ้าคุณนอนหลับได้ไม่ดีในช่วงที่คุณมีความเครียด คุณอาจเป็นกังวลว่าจะไม่สามารถทำงานในช่วงกลางวันได้ คุณจึงคิดว่าต้องพยายามอย่างมากให้ตัวเองนอนหลับในเวลากลางคืน ซึ่งมันจะยิ่งทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น หลังจากนั้นไม่กี่คืน เมื่อใกล้เวลาเข้านอนคุณจะยิ่งกังวลเกี่ยวกับการนอนมากขึ้น การรักษาจะต้องมีทั้งไม่เรียนรู้ที่จะครุ่นคิดถึงการนอนหลับที่ไม่ดี และเรียนรู้ลักษณะนิสัยการนอนหลับใหม่ ชีวิตประจำวัน สารกระตุ้น คาเฟอีนทำให้รู้สึกตื่น ถ้าคุณดื่มกาแฟช่วงเย็นการนอนหลับของคุณอาจแย่ลง มันอาจทำให้คุณนอนไม่หลับ สารนิโคตินจะทำให้คุณตื่นเช่นเดียวกัน คนที่สูบบุหรี่อาจจะนอนหลับได้ยากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ ยาหลายชนิดที่มีสารกระตุ้น รวมถึงยาลดน้ำหนัก ยาแก้แพ้... Continue reading
รู้ทันโรค

มังคุด ราชินีแห่งผลไม้ของไทย..

10 Jul 2018 / 5367 / 0
มังคุด ราชินีแห่งผลไม้ของไทย? มังคุด เป็นผลไม้ที่อยู่คู่คนไทยมานาน แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักมังคุดได้เป็นอย่างดี ซึ่งมังคุดมีชื่อเรียกต่าง ๆ และมีความเป็นมา ดังนี้ มังคุด ชื่อภาษาอังกฤษคือ mangosteen มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia mangostana Linn. มีชื่อเรียกในภาษามลายูว่ามังกุสตาน manggustan ภาษาอินโดนีเซียเรียกมังกีส ภาษาพม่าเรียกมิงกุทธี ภาษาสิงหลเรียกมังกุส เป็นพันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบเขตร้อนชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู่เกาะซุนดาและหมู่เกาะโมลุกกะ แพร่กระจายพันธุ์ไปสู่หมู่เกาะอินดีสตะวันตกเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 24 แล้วจึงไปสู่กัวเตมาลา ฮอนดูรัส ปานามา เอกวาดอร์ ไปจนถึงฮาวายในประเทศไทยมีการปลูกมังคุดมานานแล้วเช่นกัน เพราะมีกล่าวถึงในพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ในสมัยรัชกาลที่ 1 นอกจากนั้น ในบริเวณโรงพยาบาลศิริราชยังเคยเป็นที่ตั้งของวังที่มีชื่อว่า “วังสวนมังคุด” ในจดหมายเหตุของราชทูตจากศรีลังกาที่เข้ามาของพระสงฆ์ไทย ได้กล่าวว่ามังคุดเป็นหนึ่งในผลไม้ที่นำออกมารับรองคณะทูตอีกด้วย  จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าเนื้อมังคุดมีสารกลุ่มแคททีชินและฟลาวานอยด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ แต่ฤทธิ์น้อยกว่าเปลือกมังคุด ซึ่งจะพบสารกลุ่มแซนโทน ปัจจุบันมีการพัฒนาน้ำคั้นเนื้อมังคุดผสมเปลือกมังคุด โดยเน้นประโยชน์เรื่องการต้านอนุมูลอิสระ และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่ถูกทำลายโดยปัจจัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงถูกยอมรับว่าเป็นสารที่ช่วยต้านเซลล์มะเร็งตัวจี๊ดที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ทั้งนี้นอกจากกินผลสด ๆ แล้ว เรายังสามารถนำเปลือกมังคุดไปทำเป็นไวน์ไว้ดื่มได้อีกอย่างหนึ่งด้วยนะคะ นอกจากนี้ มังคุดยังมีการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เปลือกมังคุดซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระต้านการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย Propionibacterium acnes และ Staphylococcus epidermidis ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว นำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์รักษาสิว นอกจากนี้ ยังมีการศึกษานำเปลือกมังคุดมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ลดกลิ่นปาก เจลและเพสต์สำหรับป้ายปาก เพื่อใช้รักษาโรคปริทันต์และแผลในปาก เนื่องจากมีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคในช่องปาก และมีการทดลองนำครีมผสมสารสกัดเปลือกมังคุดไปรักษาแผลที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวาน พบว่าได้ผลดี อย่างไรก็ตามการนำเปลือกมังคุดมาใช้ประโยชน์ภายนอกก็ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเกิดการแพ้ อาการข้างเคียง และขนาดที่ปลอดภัย จะเห็นได้ว่ามังคุดนอกจากจะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติดีแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน สมกับเป็นราชินีแห่งผลไม้ของไทยจริงๆ   เริ่มดูแลสุขภาพได้แล้ววันนี้ โทร : 099-219-3955  |  Line : @pochong     ยังมีอีก 1 เคล็ดลับ ดูแลสุขภาพด้วยโพชงน้ำสมุนไพร 32 ชนิด  Continue reading
รู้ทันโรค

เห็ดหลินจือ ราชาสมุนไพรที่มากด้วยสรรพคุณ

10 Jul 2018 / 6526 / 0
เห็ดหลินจือ (Ling Zhi, Reishi) ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ganoderma lucidum เป็นยาจีนชั้นสูง ที่ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี ได้รับการบันทึกไว้สรรพคุณไว้ใน ตำรา “เสินหนงเปิ่นฉ่าวจิง” ตั้งแต่ยุคสมัยฮั่นของจีน มีชื่อเรียกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หลิงจือ เห็ดหมื่นปี เห็ดจวักงู เห็ดอมตะ เห็ดศักดิ์สิทธิ์ และยังถูกเรียกว่าราชาสมุนไพรเนื่องจากสรรพคุณทางยาในการบำรุงร่างกาย ขับพิษ ป้องกันและรักษาโรคที่ดีเลิศกว่าสมุนไพรชนิดอื่น เห็ดหลินจือนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีนและมีหลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่นิยมนำมาบริโภคเพื่อบำรุงร่างกายและรักษาโรคมากที่สุดก็คือ เห็ดหลินจือแดง เนื่องจากมีสารที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ด้วยสรรพคุณทางยาที่มากมายของเห็ดหลินจือ ทำให้มันถูกนำมาใช้มาเป็นหนึ่งในสมุนไพรต้านมะเร็ง โดยทางการแพทย์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้มีการศึกษาวิจัยแล้วว่า เห็ดหลินจือนั้นมีคุณสมบัติในการต่อต้านโรคมะเร็งที่ได้ผลดีเยี่ยม และหากใช้ควบคู่กับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ก็จะช่วยลดผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดให้แก่ผู้ป่วยอีกด้วย ซึ่งสรรพคุณของเห็ดหลินจือที่ออกฤทธิ์ต่อโรคมะเร็ง นพ.บรรเจิด ตันติวิท ผุ้เขียนหนังสือ”หลินจือ กับ ข้าพเจ้า” ระบุว่า มีดังนี้ เห็ดหลินจือกับการต้านโรคมะเร็ง 1. เห็ดหลินจือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี สามารถขจัดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งได้ 2. เห็ดหลินจือช่วยทำให้ศักย์ไฟฟ้าของเซลล์มะเร็งต่ำลง ซึ่งจะช่วยให้ให้เม็ดเลือดขาวเข้าไปต่อสู้ทำลายเซลล์มะเร็งได้ 3. เห็ดหลินจือช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้สามารถออกฤทธิ์ต่อต้านกับเซลล์มะเร็งในร่างกายได้ ทั้งยังไม่ทำลายเซลล์ปกติที่อยู่รอบเซลล์มะเร็งอีกด้วย 4. เห็ดหลินจือช่วยร่างกายเพิ่มระดับและความสามารถในการสังเคราะห์เม็ดเลือด ซึ่งรวมถึงปริมาณของเม็ดเลือดขาว ที่จะถูกสังเคราะห์มากขึ้นเช่นกัน 5. เห็ดหลินจือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาวในการทำลายเซลล์มะเร็ง จากการวิจัยพบว่าเม็ดเลือดขาว ชนิด Macrophage เมื่อได้รับสารสกัด Polysaccharide จากเห็ดหลินจือ จะมีการสร้างสารเคมีที่ช่วยในการต้านมะเร็งเพิ่มขึ้น 5 – 29 เท่า 6. เห็ดหลินจือจะช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของตับที่ถูกทำลายจากการรับประทานยาจำนวนมากติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้ตับทำงานได้ดีขึ้น 7. ในการแพทย์แผนจีน โรคมะเร็งนั้นอาจะเรียกได้ว่าเป็นโรคที่เกิดจากพิษ การทานเห็ดหลินจือที่มีสรรพคุณในการขับพิษ จึงช่วยลดสารก่อมะเร็งได้ 8. หากมีการใช้เห็ดหลินจือความคู่กับการทำเคมีบำบัด จะช่วยผลข้างเคียงและความเจ็บปวดจากการทำเคมีบำบัดได้ 9. ในการใช้เห็ดหลินจือความคู่กับการทำเคมีบำบัดนั้น หากมีการใช้วิตามินซีร่วมด้วย จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซับ สารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharides) ในเห็ดหลินจือได้มากขึ้น ซึ่งสารนี้จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของร่างกาย กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันการลุกลามของเซลล์มะเร็ง และช่วยปรับปรุงการทำงานของตับอ่อน และนอกเหนือจากสรรพคุณข้างต้นนี้ เห็ดหลินจือยังมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายอย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องระบบหมุนเวียนโลหิต ลดความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ล้างพิษ ชะลอวัย... Continue reading
รู้ทันโรค

แอปเปิ้ล ประโยชน์ที่มากกว่า!!

10 Jul 2018 / 3721 / 0
แอปเปิ้ล ให้สารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและวิตามินซีเป็นหลัก ซึ่งปริมาณวิตามินซีจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว และความสด เนื้อแอปเปิ้ล 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 6มิลลิกรัม และให้พลังงานราว 59 แคลอรี ไม่ทำให้อ้วน แต่แอปเปิ้ลก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์ชนิดอื่นทดแทน แบบที่เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าผลไม้อื่นแต่อย่างใด พลังงานที่ได้จากแอปเปิ้ลมีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจคือ แอปเปิ้ลจะให้พลังงานค่อนข้างต่ำและค่อยเป็นค่อยไป เพราะแหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลคือ น้ำตาลฟรักโทสซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ในร่างกายช่วยให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มนาน ผลที่ตามมาคือ ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนกินขนมหวาน จึงเหมาะกับคนไข้เบาหวานด้วยเช่นกัน เปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารที่ชื่อว่า “เพคติน” ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก ช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้อวัยวะในทางเดินอาหารมีการทำงานเป็นปกติ เพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่าย ซึ่งเป็นการช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ และยังช่วยจับคอเลสเตอรอลไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันโรคคอเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่และสารอาหารที่มีประโยชน์อีกหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ บี 1 บี 2 บี 6 ไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเธอนิค เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมกกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน สารอาหารเหล่านี้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะวิตามินซี และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในแอปเปิ้ล จะช่วยป้องกันโรคหัวใจในผู้ที่รับประทานเป็นประจำ   เริ่มดูแลสุขภาพได้แล้ววันนี้ โทร : 099-219-3955  |  Line : @pochong   ซึ่งในโพชง นั้นมีน้ำแอปเปิ้ลเข้นข้นถึง 35% สามารถเทียบได้กับแอปเปิ้ล 3 ลูก!! เลยทีเดียว     Continue reading
รู้ทันโรค

โรคภูมิแพ้ โรคฮิตคนกรุง

09 Jul 2018 / 9677 / 0
โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ ทำให้เกิดอาการเมื่อสัมผัสหรือสูดดมสารก่อภูมิแพ้ โดยมีปัจจัยส่งเสริมคือ สภาวะแวดล้อมโดยเฉพาะสภาวะมลพิษทางอากาศที่นับวันจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ จากสถิติพบว่า เด็กที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครมีอาการเจ็บป่วยจากโรคภูมิแพ้ประมาณ 60 % โรคภูมิแพ้นอกจากจะทำให้เกิดอาการผิดปกติแล้ว ยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคตามมาอีก เช่น ไซนัสอักเสบ  ริดสีดวงจมูก หอบหืด หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ทอลซินอักเสบเรื้อรังหรือทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพการนอน หัวใจ และสมอง ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้มีอาการภูมิแพ้ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการรักษาเพราะอาจทำให้เกิดโรคอื่นแทรกซ้อนขึ้นมาได้ ชนิดของโรคภูมิแพ้ อาจแบ่งตามระบบของร่างกาย ออกได้เป็น 5 กลุ่มคือ โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคหืด (Astha) โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หรือโรคแพ้อากาศ (Allergic rhinitis) โรคภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Allergic skin disease) โรคภูมิแพ้ทางตา (Eye allergy) โรคภูมิแพ้ทางเดินอาหาร วิธีป้องกันภูมิแพ้ ควรได้รับแสงแดดเพื่อเพิ่มหยางในร่างกาย ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการเดินออกกำลังกาย สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดอาการเกิดภูมิแพ้ แนะนำให้ออกกำลังกายในช่วงที่แดดไม่แรงจนเกินไป โดยให้แสงแดดส่องที่บริเวณแผ่นหลังและฝ่ามือเป็นหลัก หลีกเลี่ยงและอยู่ห่างไกลจากฝุ่นละออง ควันรถยนต์ในชั้นบรรยากาศ ควันก๊าซจากโรงงาน หรือสิ่งกระตุ้นอื่นๆ เช่น ควันบุหรี่ เป็นต้น การนอนหลับพักผ่อน ไม่ควรเข้านอนดึกจนเกินไป เพราะในช่วงหลังจาก 5 ทุ่มเป็นต้นไป จะเป็นช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูปรับสมดุล การนอนดึกจะไปทำลายระบบการฟื้นฟูของภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดภูมิแพ้ขึ้น ปรับอาหาร โดยการกินอาหารที่ต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี คนเราสร้างวิตามินซี ไม่ได้ ไม่เหมือนสุนัข, แมว ซึ่งสร้างวิตามินซีได้ วิตามินซีจะอยู่ในอาหารประเภทเปรี้ยว, ฝาด คือ ผักผลไม้ที่สดๆ อนุมูลอิสระอีกกลุ่มหนึ่ง คือ วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ซึ่งอยู่ในผักผลไม้ที่มีสีเขียวจัด, สีเหลือง, สีแดง, สีม่วง, แครอทมีเบต้าแคโรทีน แต่มีไม่มาก แครอท 100 g. มีวิตามินเออยู่ 1,144 อินเตอร์เนชั่นแนลยูนิต แต่ที่มีเบต้าแคโรทีนมาก คือ ผักเหลียง, ผักปัง, ผักขี้เหล็ก 100. มีวิตามิน 43,333... Continue reading

Showing 21–28 of 28 posts

  • Prev page
  • 1
  • 2
  • 3

บทความล่าสุด

วิธีสังเกตอาการไข้หวัดใหญ่

19 May 2025 0

โรคภูมิแพ้เกิดจากอะไร? รู้เท่าทันอาการ สาเหตุ และการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลโรคภูมิแพ้

14 May 2025 0

5 วิธีรับมือกับฝุ่นร้าย PM2.5

26 Feb 2025 0

สมัครรับข่าวสารและสิทธิพิเศษ

We’ll never share your details. See our Privacy Policy

สอบถามหรือสั่งซื้อผ่านไลน์


สินค้า
ดูสินค้าทั้งหมด
โปรโมชั่น
ช่วยเหลือ
คำถามบ่อย
การเปลี่ยนหรือคืนสินค้า
ติดต่อเรา
ที่อยู่การจัดจำหน่าย

470 ถนนรัชดาภิเษก
สามเสนนอก ห้วยขวาง
กรุงเทพ 10310

โทรศัพท์

099 219 3955
090 096 2626

จันทร์-ศุกร์: 9.00 น. – 18.00 น.

©Pochong 2020. All rights reserved.