ลูกยอ
มีการค้นพบว่าลูกยอมีสารสาคัญมากมายโดย ดร.ราฟ ไอเนกี (Dr. Ralph Heinicke) นักชีวเคมีชาวอเมริกัน ได้ทาการวิจัยและค้นพบ เอนไซม์ในสับปะรด ซึ่งเป็นอัลคาลอยด์ชนิดหนึ่งเขาตั้งชื่อไว้ว่า เซโรนีน (Xeronine) นับแต่ปี ค.ศ. 1950 และได้มีการศึกษาอย่างต่อเนื่องจนพบว่ามีสารนี้ในลูกยอมากกว่าในสับปะรดหลายสิบเท่า และได้มีการวิจัยอย่างต่อเนื่อง จนรู้ถึงคุณประโยชน์ของลูกยอ และเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ดังนี้
- สร้างเสริมปฏิกิริยาชีวเคมีในเซลล์ให้ดีขึ้น ฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมโทรม ซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทาลาย เพิ่มพลังในเซลล์ทาให้มีกาลังและขจัดสารพิษในเซลล์
- ช่วยสังเคราะห์สารโปรตีนในร่างกาย ทาให้ระบบฮอร์โมนในร่างกายดีขึ้น และเป็นผลดีต่อต่อมต่าง ๆ ในร่างกายทาให้ทางานดีขึ้น
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย และต่อต้านมะเร็ง
- ลดระดับน้าตาล
- ลดความดันโลหิตสูง
- ต่อต้านเซลล์มะเร็ง และเสริมภูมิต้านทานโรคโดยการกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาวเพื่อต่อต้านเซลล์มะเร็งและเชื้อโรคต่าง ๆ
- ลดและบรรเทาการอักเสบของเซลล์ ลดและบรรเทาโรคภูมิแพ้
- มีวิตามิน แร่ธาตุ อะมิโนแอซิด ช่วยเสริมอาหารและเพิ่มพลังงานใน ร่างกาย
- ระงับความเจ็บปวด และบรรเทาอาการปวดซ้า
- ช่วยสมานแผล ทาให้แผลหายเร็ว
- ป้องกันและลดอาการของโรคภูมิแพ้
สารสาคัญที่พบในลูกยอ
➢ สารโพรเซอร์โคมี (Proxeronine) เมื่อรวมกับเอนไซม์โพรเซอร์โอเนส จะได้เป็นสารเซอร์โอนีน ที่ลาไส้ใหญ่และเมื่อดูดซึมกลับสู่เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย จะช่วยปรับสภาพเซลล์ให้มีความสมดุล แข็งแรง และมีภูมิต้านทานที่ดีอีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมและ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ และกระตุ้นให้เซลล์ใหม่เติบโตและทาหน้าที่ได้เป็นอย่างดีซึ่งสารสาคัญนี้มี คุณสมบัติในการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและเนื้องอกได้
➢ สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants)มีหลากหลายชนิดซึ่งมีผลเสริมฤทธิ์กันในการขจัดอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
➢ สารไบโอฟลาโวนอยด์ ใช้ในการบรรเทาปวด และต้านอักเสบ ทาให้หลอดเลือด มีความแข็งแกร่งขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือด เสริมภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยให้ตับทางาน มีประสิทธิภาพขึ้น ลดระดับโคเลสเตอรอล และบารุงสายตา
➢ คาโรทีนอยด์ (Carotenoid) มีบทบาทสาคัญในการต้านอนุมูลอิสระ และพบว่าได้ประโยชน์ ใกล้เคียงกับสารไบโอฟลาโวนอยด์
➢ วิตามินซี เป็นสารสาคัญที่มีฤทธิ์ในการต้านการติดเชื้อไวรัส ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโครงสร้างของผิวหนัง กระดูกและกล้ามเนื้อ
นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด อีกทั้งยังมีผลลดระดับฮิสตามีน ซึ่งเป็นเหตุสาคัญในการก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้
➢ วิตามินอี มีส่วนช่วยในการป้องกันภาวะอุดตันของหลอดเลือดและช่วยบรรเทาอาการปวด ชา ลดความดันเลือดสูง ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
➢ ซีสเตอีน (Cysteine) ซึ่งมีบทบาทในการขจัดอนุมูลอิสระ และยังมีผลในการขจัดสารพิษ จากแอลกอฮอล์ บุหรี่ และมลพิษในอากาศต่างๆ
➢ ซีลีเนียม (Selenium) มีความสาคัญในการป้องกันความเสื่อมที่พบในเบาหวาน และมีบทบาทสูง ในการเสริมภูมิต้านทานโรค
➢ สารสโคโปเลติน (Scopoletin) สารชนิดนี้จะมีคุณสมบัติช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว และมีฤทธิ์ยับยั้งการทางานของระบบประสาท อัตโนมัติรวมทั้งยังช่วยให้มีพลังงานและขจัดความรู้สึกอ่อนเพลียลง และยังช่วยต้านการอักเสบที่ทาให้เกิดอาการปวดตามข้อช่วยให้อาการอักเสบ ดีขึ้น มีฤทธิ์ต้านฮีสตามีนมีฤทธิ์รักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยควบคุมการทางานของเซลล์ในร่างกายให้เป็นปกติ และสร้างเซลล์ใหม่เพื่อทดแทนเซลล์ที่เสื่อมแล้วกรดอะมิโน เป็น สารสาคัญที่ใช้ในการสังเคราะห์โปรตีน ซึ่งเป็นส่วนสาคัญของโครงสร้างร่างกาย มนุษย์ เพราะโปรตีนมีหน้าที่ในการสร้างกล้ามเนื้อ ผิวหนัง เอ็น เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ต่อมไร้ท่อ เล็บ ผม และกระดูก นอกจากนี้ ยังมีส่วนในการสังเคราะห์ฮอร์โมน เอนไซม์ และยีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของพันธุกรรมวิตามินและเกลือแร่ มีหลากหลาย ชนิด เช่น แมกนีเซียมมีความสาคัญอย่างยิ่งในการทางานของ เอนไซม์ และช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมและโพแทสเซียม และยังพบธาตุเหล็กซึ่งจะช่วยในการสร้างเฮโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดงที่มีหน้าที่นาออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกาย
➢ นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ลูกยอยังประกอบด้วยสารสาคัญอีกกว่า 100 ชนิด เช่น แอนทราควิโนน (Antraquinone) ที่ช่วยควบคุมการติดเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อโรคต่างๆ